มีขยะจากพลาสติคจากการบริโภคและถูกทิ้งไว้ตามที่ต่างๆรวมถึงท้องทะเลมหาสมุทรเป็นจำนวนมากกว่าแปดล้านตันในแต่ละปี และดูเหมือนว่าปริมาณขยะจากพลาสติคจะไม่ลดน้อย เพราะว่าพลาสติคไม่สามารถนำเข้าสู่ขบวนการ recycle ได้ทั้งหมด ทำได้เฉพาะบางส่วนเท่านั้น ที่เหลือก็จะถูกทิ้งไว้เป็นขยะหรือหากจะย่อยสลายเองได้ตามธรรมชาติต้องใช้เวลามากกว่าร้อยปี

Photo by: Giuseppe Famiani on Unsplash

มีนักวิจัยบางกลุ่มได้พยายามศึกษาหาวิธีเพื่อทำให้การย่อยสลายพลาสติคเป็นไปได้อย่างรวดเร็วกว่าวิธีทางธรรมชาติ โดยใช้แมลงจำพวกหนอนมากัดกินขยะพลาสติคเพื่อให้ย่อยสลายเร็วขึ้นกว่าเดิม แต่ล่าสุดมีรายงานการวิจัยที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร Proceedings of the National Academy of Sciences ที่เป็นความร่วมมือของนักวิจัยจาก Portsmouth University และ National Renewable Energy Laboratory – NREL นำทีมโดย Prof. John McGeehan ที่ได้ศึกษาและค้นพบว่าโครงสร้างของแบคทีเรีย Ideonella Sakaiensis ที่มีเอนไซม์ชื่อว่า PETase มีคุณสมบัติในการกินหรือย่อยพลาสติคได้

แรกเริ่มทางทีมวิจัยได้มุ่งประเด็นและให้ความสำคัญกับแบคทีเรีย Ideonella Sakaiensis ที่ก่อนหน้านี้ในปี 2016 ทางนักวิจัยชาวญี่ปุ่นพบว่าแบคทีเรียชนิดนี้สามารถย่อสลายพลาสติคได้โดยเฉพาะขวด PET (Polythylene Terephthalate) ที่เป็นบรรจุภัณฑ์สำหรับน้ำดื่ม ทางที่มนักวิจัยได้พยายามศึกษาเพื่อเข้าใจโครงสร้างและขบวนการทำงานของแบคทีเรียชนิดนี้ และได้พยามปรับแต่งเอนไซม์ PETase โดยการเติมกรดอะมิโนบางชนิดลงไป ซึ่งผลปรากฏว่าเอนไซม์ที่เติมกรดอะมิโนสามารถช่วยย่อยสลายได้ดีกว่าเอนไซม์ตามธรรมชาติถึง 20 เปอร์เซ็นต์

ถึงแม้การค้นพบจากการวิจัยดังกล่าวจะเป็นเรื่องน่ายินดี แต่ก็เป็นแค่เพียงการเริ่มต้นในการหาวิธีในการกำจัดจากพลาสติคและเพื่อช่วยแก้ปัญหาขยะจากพลาสติคที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นในแต่ละวัน ทางทีมวิจัยกำลังพัฒนาและปรับแต่งเอนไซม์ PETase ให้มีประสิทธิภาพกว่าเดิมเพื่อช่วยย่อยสลายพลาสติคให้กลับไปสู่ส่วนประกอบดังเดิมของมันเพื่อนำกลับไปใช้ในขบวนการ recycle

Steem: www.steemit.com/@andyjim

Twitter: www.twitter.com/bestdealhotdeal